เป็นขั้นตอนการลงขายสินค้าโดยละเอียด
การลงสินค้าใน eBay คลิ๊ก <<< เป็นไฟล์ PDF.
ที่มา eฺBay.co.th
วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
ทำไมมือใหม่ควรลอง Dropship จาก Amazon ไปขายที่ eBay ก่อน
ด้วยระบบ Prime ของ Amazon ไงครับ มันทำให้ง่ายสำหรับมือใหม่ยังไงละครับ
ข้อเด่น
- ส่งฟรีทั่วสหรัฐ ฯ
- ส่งถึงมือลูกค้าใน 2 วัน
- ถ้าสินค้ามีปัญหาก็เคลมง่าย เช่น ส่งผิดชนิด มีการเสียหาย ไม่ตรงกับที่ลูกค้าต้องการ
- ใช้งานฟรี 1 เดือน ถ้ายอดเรายังไม่เยอะ ก็ยกเลิกได้ก่อนที่จะต่อสัญญาใหม่ แต่ถ้ายอดขายเยอะแล้วจะเป็นสมาชิกก็มีให้เสียเป็นรายเดือน (10เหรียญ) กับ รายปี (99เหรียญ)
แค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำ Dropship แล้ว... แต่ทุกอย่างต้องมีแต่ครับ
ข้อด้อย
- ราคาสินค้าจะสูงขึ้นพอสมควร อาจจะทำราคาแข่งสู้คนอื่นไม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่ไม่มีเลยมีสินค้าหลายตัวที่ยังทำกำไรได้ครับ
ซึ่งในระบบของ eBay Feedback มีความสำคัญมาก การส่งของจาก Amazon ทำให้มีโอกาสได้ Feedback สูงกว่าระบบอื่น ด้วยความที่ส่งไว และเคลมสินค้าง่าย โอกาสเสี่ยงและขาดทุนก็ต่ำเป็นงาตามตัว แต่ด้วยจุดด้อยในเรื่องราคา ของบางชนิดจะแข่งกับคนอื่นไม่ได้ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องหาตัวที่ทำให้เราขายได้ และมีกำไรด้วยความอดทน
แต่ถ้าจะกระโดดไปสั่งของจาก Aliexpress ก็ไม่ผิดนะครับ หรืออย่าง Dropship เจ้าอื่นๆอีก เช่น Lightinbox แต่อย่างที่บอกก็อาจจะมีความเสี่ยงสูงขึ้น ในเรื่องของสินค้าที่ช้า คนขายอาจจะไม่ส่ง เมื่อมีปัญหาเคลมยากเราอาจจะต้องรีฟันด์เงินคืนลูกค้าเอง และอื่นๆ ที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงสูงขึ้นกับการโดนถูกให้ Feedback - แต่ข้อเด่นคือจะทำกำไรได้มาก
ลองพิจาณากันดูครับว่าเราเป็นพวก Play safe หรือ ใจถึง ส่วนตัวผู้เขียนเอง ... เป็นพวก Play safe ครับ ไม่รีบขอไปช้าแต่ชัวย์ดีกว่า เพราะขี้เกียจแก้เคสครับ ภาษาไม่ค่อยแข็ง
ข้อเด่น
- ส่งฟรีทั่วสหรัฐ ฯ
- ส่งถึงมือลูกค้าใน 2 วัน
- ถ้าสินค้ามีปัญหาก็เคลมง่าย เช่น ส่งผิดชนิด มีการเสียหาย ไม่ตรงกับที่ลูกค้าต้องการ
- ใช้งานฟรี 1 เดือน ถ้ายอดเรายังไม่เยอะ ก็ยกเลิกได้ก่อนที่จะต่อสัญญาใหม่ แต่ถ้ายอดขายเยอะแล้วจะเป็นสมาชิกก็มีให้เสียเป็นรายเดือน (10เหรียญ) กับ รายปี (99เหรียญ)
แค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำ Dropship แล้ว... แต่ทุกอย่างต้องมีแต่ครับ
ข้อด้อย
- ราคาสินค้าจะสูงขึ้นพอสมควร อาจจะทำราคาแข่งสู้คนอื่นไม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่ไม่มีเลยมีสินค้าหลายตัวที่ยังทำกำไรได้ครับ
ซึ่งในระบบของ eBay Feedback มีความสำคัญมาก การส่งของจาก Amazon ทำให้มีโอกาสได้ Feedback สูงกว่าระบบอื่น ด้วยความที่ส่งไว และเคลมสินค้าง่าย โอกาสเสี่ยงและขาดทุนก็ต่ำเป็นงาตามตัว แต่ด้วยจุดด้อยในเรื่องราคา ของบางชนิดจะแข่งกับคนอื่นไม่ได้ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องหาตัวที่ทำให้เราขายได้ และมีกำไรด้วยความอดทน
แต่ถ้าจะกระโดดไปสั่งของจาก Aliexpress ก็ไม่ผิดนะครับ หรืออย่าง Dropship เจ้าอื่นๆอีก เช่น Lightinbox แต่อย่างที่บอกก็อาจจะมีความเสี่ยงสูงขึ้น ในเรื่องของสินค้าที่ช้า คนขายอาจจะไม่ส่ง เมื่อมีปัญหาเคลมยากเราอาจจะต้องรีฟันด์เงินคืนลูกค้าเอง และอื่นๆ ที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงสูงขึ้นกับการโดนถูกให้ Feedback - แต่ข้อเด่นคือจะทำกำไรได้มาก
ลองพิจาณากันดูครับว่าเราเป็นพวก Play safe หรือ ใจถึง ส่วนตัวผู้เขียนเอง ... เป็นพวก Play safe ครับ ไม่รีบขอไปช้าแต่ชัวย์ดีกว่า เพราะขี้เกียจแก้เคสครับ ภาษาไม่ค่อยแข็ง
ระบบ Feedback บน eBay
Feedback บน eBay คืออะไร
สำหรับผู้ขาย-ผู้ซื้อใน Ebay ใน Feedback Forum ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ หรือ เป็นที่ที่เราจะก่นด่าหรือต่อว่าใครได้ตามใจชอบ เพราะ Feedback คือหัวใจสำคัญของระบบความเชื่อถือระหว่างบุคคลในเหล่าสมาชิกอีเบย์ โดยตามมารยาทของผู้ขาย-ผู้ซื้อใน Ebay จะต้องแลกเปลี่ยนคะแนน Feedback กับคู่ค้าทุกครั้งภายใน 90 วันหลังจากปิดการขาย โดยไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ซื้อ คุณก็มีสิทธิ์ได้ Feed Back และโดยเฉพาะผู้ขายก็มีสิทธิ์ได้ Feed Back เช่นกัน เพราะถือเป็นประวัติที่ทำให้เกิดความน่าเชื่อถือในตัวสมาชิกผู้นั้นได้Feedback มีอยู่ 3 ตัวเลือก คือ
+1 สำหรับการตกลงซื้อขายที่เป็นที่พอใจ
0 หรือ Neutral สำหรับการตกลงซื้อขายที่ไม่เป็นไปตามความคาดหมาย แต่ไม่ถึงกับทำให้ไม่พอใจ
-1 สำหรับการตกลงซื้อขายที่ไม่น่าพอใจ
Feedback จะเป็นเกณฑ์การตัดสินความน่าเชื่อถือ ชื่อเสียง และประสบการณ์ของสมาชิกแต่ละราย ก่อนที่จะตัดสินใจติดต่อซื้อขายระหว่างกัน ซึ่งสามารถดูคะแนน Feedback รวมได้จากตัวเลขที่อยู่หลัง User ID ของสมาชิกแต่ละราย หรือจะคลิกที่ตัวเลขเพื่อเข้าไปศึกษา Feedback ของคนนั้นอย่างละเอียดก็ได้ว่าแต่ละ Feed Back มี comment กันอย่างไรบ้าง
ระบบ Feed Back ของ Ebay ได้มีการให้สัญลักษณ์ดาวสีต่าง ตามระดับการสะสมจำนวน Feed Back ดังนี้
- สมาชิกอีเบย์ก็จะได้รับดาวสีต่างๆ ติดตัวไล่กันไปตามระดับคะแนน ตั้งแต่ ต่ำสุด สีเหลือง 10 - 49 คะแนน
- สีน้ำเงิน 50 - 99 คะแนน สีเทอร์คอยซ์ 100 - 499 คะแนน
- สีม่วง 500 - 999 คะแนน สีแดง 1,000 - 4,999 คะแนน
- สีเขียว 5,000 - 9,999 คะแนน
- และเมื่อทำคะแนนได้เกิน 10,000 ดาวธรรมดาๆ ก็จะถูกเสริมพลังเติมหางไล่ไปตามลำดับเดิม คือ ดาวหางสีเหลือง 10,000 - 24,999 คะแนน สีเทอร์คอยซ์ 25,000 - 49,999 คะแนน สีม่วง 50,000 - 99,999 คะแนน และดาวหางสีแดงสำหรับ 100,000 คะแนนขึ้นไป
Dropship คืออะไร ? ไม่สำคัญเท่าทำยังไง ? ไปดูกัน
Dropship ทำยังไง
หลายคนอาจจะสงสัย ผมก็คือบุคคล 1 ในนั้น ถ้าเปรียบให้ชัดเจนก็เหมือนพ่อค้าคนกลางนั่นเองที่นำสินค้าจาก A มาขายแล้วส่งไปให้ B ที่เป็นผู้ซื้อ แล้วเราทำกำไรจากส่วนต่างราคา โดยที่เราไม่ต้องเป็นผู้ประกัน ไม่ต้องสต๊อคของ และส่งสินค้า
ส่วนจะเริ่มต้นยังไงก็ตามขั้นตอนนี้เลยครับ
1. หาสินค้าครับสำหรับผู้เริ่มต้น และจะทำ Dropship ในอเมริกานะครับแล้วเริ่มขายใน eBay ผมแนะนำให้เริ่มจากส่งของจาก Amazon (ทำไมให้เริ่มจาก Amazon เด่วจะเล่าเพิ่มอีกทีนะครับ)
2. อาจจะเสนอตัวเป็นเหมือนเป็นเอเย่นต์ให้ร้านค้า ผู้ผลิต หรือโรงงานขอ copy รูปภาพ รายละเอียดสินค้าต่างๆ อาจจะขายผ่านสื่อ Social ต่างๆ เช่น Website Facebook eBay Amazon เป็นต้น เพื่อทำขายสินค้า
3. เมื่อมีการซื้อขาย ให้ลูกค้าโอนเงินมาที่เรา และเราก็สั่งของและโอนเงินไปให้เจ้าของสินค้าเพื่อให้ส่งสินค้าไปให้ลูกค้าของเราอีกที ถ้าเจอ Suppile มืออาชีพทุกอย่างจะราบรื่นมาก
4. การทำ Dropship สำคัญที่ต้องพยายามอัพเดทสินค้าใหม่ๆ อยู่เรื่อยๆ เพราะจุดเด่นคือการที่ต้องมีสินค้าให้หลากหลาย จะทำให้อัตราการขายได้สูงขึ้น
การทำ Dropship ถือเป็นธุรกิจที่ลงทุนน้อย ความเสี่ยงต่ำ แต่ต้องใช้ระยะเวลา และการวิเคราะห์ให้เกิดความเชี่ยวชาญ และใช้ความขยันหมั่นเพียรสูง เพราะคู่แข่งในตลาดเยอะมากเพราะเป็นธุรกิจที่ใครๆ ก็ทำได้ ก้าวแรกยากเสมอหากผ่านไปได้ก้าวต่อๆ ไปก็จะตามมา ความสำเร็จไม่ใช่เพราะโชคช่วย แต่ต้องโชกโชน
ข้อดีของการทำ Dropship อีกอย่างคุณจะทราบถึงกระแสสินค้า ความต้องการของลูกค้า ว่าตัวไหนที่คุณสามารถมาทำเอง หรือสร้างแบรนด์ของตัวเองเพื่อทำการขายโดยไม่ต้อง Dropship อาจจะทำกำไรให้มากกว่า จนขยายไปสู่การขายสินค้าในรูปแบบอื่น เช่น FBA ของ Amazon
การทำ FBA คืออะไร ตอนนี้ผมกำลังจะส่งสินค้าไปขายแบบ FBA เด่วผมจะมาเล่าในครั้งต่อๆไป ว่าผลเป็นอย่างไร สำเร็จดีไหม หรือ ... ล้มเหลว
ขอให้ทุกคนประสบผลสำเร็จ
หลายคนอาจจะสงสัย ผมก็คือบุคคล 1 ในนั้น ถ้าเปรียบให้ชัดเจนก็เหมือนพ่อค้าคนกลางนั่นเองที่นำสินค้าจาก A มาขายแล้วส่งไปให้ B ที่เป็นผู้ซื้อ แล้วเราทำกำไรจากส่วนต่างราคา โดยที่เราไม่ต้องเป็นผู้ประกัน ไม่ต้องสต๊อคของ และส่งสินค้า
ส่วนจะเริ่มต้นยังไงก็ตามขั้นตอนนี้เลยครับ
1. หาสินค้าครับสำหรับผู้เริ่มต้น และจะทำ Dropship ในอเมริกานะครับแล้วเริ่มขายใน eBay ผมแนะนำให้เริ่มจากส่งของจาก Amazon (ทำไมให้เริ่มจาก Amazon เด่วจะเล่าเพิ่มอีกทีนะครับ)
2. อาจจะเสนอตัวเป็นเหมือนเป็นเอเย่นต์ให้ร้านค้า ผู้ผลิต หรือโรงงานขอ copy รูปภาพ รายละเอียดสินค้าต่างๆ อาจจะขายผ่านสื่อ Social ต่างๆ เช่น Website Facebook eBay Amazon เป็นต้น เพื่อทำขายสินค้า
3. เมื่อมีการซื้อขาย ให้ลูกค้าโอนเงินมาที่เรา และเราก็สั่งของและโอนเงินไปให้เจ้าของสินค้าเพื่อให้ส่งสินค้าไปให้ลูกค้าของเราอีกที ถ้าเจอ Suppile มืออาชีพทุกอย่างจะราบรื่นมาก
4. การทำ Dropship สำคัญที่ต้องพยายามอัพเดทสินค้าใหม่ๆ อยู่เรื่อยๆ เพราะจุดเด่นคือการที่ต้องมีสินค้าให้หลากหลาย จะทำให้อัตราการขายได้สูงขึ้น
การทำ Dropship ถือเป็นธุรกิจที่ลงทุนน้อย ความเสี่ยงต่ำ แต่ต้องใช้ระยะเวลา และการวิเคราะห์ให้เกิดความเชี่ยวชาญ และใช้ความขยันหมั่นเพียรสูง เพราะคู่แข่งในตลาดเยอะมากเพราะเป็นธุรกิจที่ใครๆ ก็ทำได้ ก้าวแรกยากเสมอหากผ่านไปได้ก้าวต่อๆ ไปก็จะตามมา ความสำเร็จไม่ใช่เพราะโชคช่วย แต่ต้องโชกโชน
ข้อดีของการทำ Dropship อีกอย่างคุณจะทราบถึงกระแสสินค้า ความต้องการของลูกค้า ว่าตัวไหนที่คุณสามารถมาทำเอง หรือสร้างแบรนด์ของตัวเองเพื่อทำการขายโดยไม่ต้อง Dropship อาจจะทำกำไรให้มากกว่า จนขยายไปสู่การขายสินค้าในรูปแบบอื่น เช่น FBA ของ Amazon
การทำ FBA คืออะไร ตอนนี้ผมกำลังจะส่งสินค้าไปขายแบบ FBA เด่วผมจะมาเล่าในครั้งต่อๆไป ว่าผลเป็นอย่างไร สำเร็จดีไหม หรือ ... ล้มเหลว
ขอให้ทุกคนประสบผลสำเร็จ
การรับเงินจากต่างประเทศด้วยบัญชีต่างๆ paypal payoneer หรือผ่านแบงค์กรุงเทพสาขานิวยอร์ค
การรับเงินผ่านการขายของหรือ ธุรกรรมทางการเงินหลักๆ ตอนนี้ที่ผมใช้อยู่คือ 3 ช่องทาง
1 Paypal จะใช้ซื้อขายผ่าน eBay เป็นหลัก
2 บัญชีธนาคากรุงเทพ จะใช้รับเงินจาก Amazon ผ่านสาขานิวยอร์ค
3 Payoneer อันนี้สมัครไปแล้วแต่ยังไม่ได้บัตร
แต่มี 1-2 ก็ครอบคลุมหมดแล้ว
*Routing Number 026008691 ของธนาคารกรุงเทพ สาขานิวยอร์ก
ค่าธรรมเนียม
1 Paypal จะใช้ซื้อขายผ่าน eBay เป็นหลัก
2 บัญชีธนาคากรุงเทพ จะใช้รับเงินจาก Amazon ผ่านสาขานิวยอร์ค
3 Payoneer อันนี้สมัครไปแล้วแต่ยังไม่ได้บัตร
แต่มี 1-2 ก็ครอบคลุมหมดแล้ว
*Routing Number 026008691 ของธนาคารกรุงเทพ สาขานิวยอร์ก
ค่าธรรมเนียม
ยอดเงินโอนจากประเทศ
สหรัฐอเมริกา |
ค่าธรรมเนียมธนาคาร
กรุงเทพ สาขานิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา |
ค่าธรรมเนียมธนาคาร
กรุงเทพ ประเทศไทย |
| น้อยกว่า 50 ดอลลาร์สหรัฐฯ | ไม่คิดค่าธรรมเนียม | 0.25% ของมูลค่าเงินโอน (ขั้นต่ำ 200 บาท สูงสุด 500 บาท) |
| 50.01-100 ดอลลาร์สหรัฐฯ | 3 ดอลลาร์สหรัฐฯ | |
| 100.01-2,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ | 5 ดอลลาร์สหรัฐฯ | |
| 2,000.01-50,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ | 10 ดอลลาร์สหรัฐฯ | |
| ตั้งแต่ 50,000.01 ดอลลาร์สหรัฐฯ ขึ้นไป | 20 ดอลลาร์สหรัฐฯ |
วันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
Aliexpress สมัครง่ายในไม่กี่นาที
ขั้นตอนที่ 1 สำหรับคนที่ไม่เคยสมัครไปหน้าที่สมัครเลยครับ คลิ๊ก
ขั้นตอนที่ 2 เมื่อสมัครเสร็จแล้วก็ไปยืนยันตัว จะได้ตามรูปด้านล่างเป็นอันเรียบร้อย
ข้อแตกต่างของ Amazon Individual and Professional Selling Plans
ถ้าเป็นมือใหม่ ยังไม่รู้จะขายอะไร Individual ก็เพียงพอแล้ว
แต่ถ้าคุณมียอดขายเกิน 40 ชิ้นขึ้นไปต่อเดือน สมัครเป็น Professional ก็เป็นทางเลือกที่คุ้มค่ากว่า
แต่ถ้าคุณมียอดขายเกิน 40 ชิ้นขึ้นไปต่อเดือน สมัครเป็น Professional ก็เป็นทางเลือกที่คุ้มค่ากว่า
| Individual selling plan | Professional selling plan |
| $0.99 per item fee for each item that sells | Monthly subscription fee |
| Single listing creation | Multiple listing creation using spreadsheets and uploads |
| Online listing and order management | Inventory and order management using reports and feeds |
| Access to tools on Seller Central to perform account functions | Access to Amazon Marketplace Web Service to upload feeds, receive reports, and perform other API functions |
สมัคร Amazon เพื่อไว้ทำ FBA ในอนาคต และขายของ อันนี้ยุ่งยากพอสมควร
ย้ำเตือน การเป็น Seller บน amazon มีสองแบบคือ Individual กับ Professional ซึ่ง Amazon จะลักไก่โดยทุกการสมัครจะบังคับเป็น Professional เสมอซึ่งจะโดนตัดบัตรทันที 39.99 เหรียญ/เดือน เพราะฉะนั้นตอนสมัครขั้นตอนกรอกบัตร ควรเลือกบัตรที่ไม่มีตังค์ให้มันตัด
*เมื่อก่อนมันฟรี 1 เดือน แต่เด่วนี้ไม่ฟรีละ*
*สำคัญมากสำหรับมือใหม่*
อ่านข้างบนให้จบ อ่านจบแล้วไปเริ่มสมัครกันได้เลย
ขั้นตอนการสมัคร คลิ๊ก
ขั้นตอนต่อไปที่จะติดกันคือ Tax Info คลิ๊ก
เมื่อสมัครเสร็จ ป้าเมจะโชว์เทพด้วยหน้านี้ นั่นคือให้เรากรอกบัตรเครดิต / หรือเดบิตของเราอีกครั้ง
ย้ำอีกครั้ง ถ้ายังไม่พร้อมลงของเป็นร้อยชิ้น บัตรเครดิต/เดบิต ต้องไม่มียอดเงินให้ Amazon ตัดได้ไม่งั้นจะโดน 39.99 เหรียญทันที เวลาอยากลองขายขำๆ จะหมดไปทันที
โอเคอ่านจบแล้วใช่ไหมรหัสบัตรได้ก็เลือกที่ Update Credit Card Info
เมื่อกรอกเสร็จรีบไป ... Downgrade ด่วนเลยจาก Pro > Individual วิธีทำ คลิ๊ก
ดูให้แน่ใจว่าเปลี่ยนเป็น Individual แล้วจริง ๆ เท่านี้บัตรก็จะไม่โดนตัด 39.99 เหรียญแล้วสามารถนำไปใช้ได้อย่างปลอดภัย
*เมื่อก่อนมันฟรี 1 เดือน แต่เด่วนี้ไม่ฟรีละ*
*สำคัญมากสำหรับมือใหม่*
อ่านข้างบนให้จบ อ่านจบแล้วไปเริ่มสมัครกันได้เลย
ขั้นตอนการสมัคร คลิ๊ก
ขั้นตอนต่อไปที่จะติดกันคือ Tax Info คลิ๊ก
เมื่อสมัครเสร็จ ป้าเมจะโชว์เทพด้วยหน้านี้ นั่นคือให้เรากรอกบัตรเครดิต / หรือเดบิตของเราอีกครั้ง
ย้ำอีกครั้ง ถ้ายังไม่พร้อมลงของเป็นร้อยชิ้น บัตรเครดิต/เดบิต ต้องไม่มียอดเงินให้ Amazon ตัดได้ไม่งั้นจะโดน 39.99 เหรียญทันที เวลาอยากลองขายขำๆ จะหมดไปทันที
โอเคอ่านจบแล้วใช่ไหมรหัสบัตรได้ก็เลือกที่ Update Credit Card Info
เมื่อกรอกเสร็จรีบไป ... Downgrade ด่วนเลยจาก Pro > Individual วิธีทำ คลิ๊ก
ดูให้แน่ใจว่าเปลี่ยนเป็น Individual แล้วจริง ๆ เท่านี้บัตรก็จะไม่โดนตัด 39.99 เหรียญแล้วสามารถนำไปใช้ได้อย่างปลอดภัย
สมัคร Amazon เพื่อไว้ทำ Dropship (สมัครง๊าย ง่าย)
ขั้นที่ตอน 1 เลือก Create Amazon account
ขั้นตอนที่ 2 กรอกรายละเอียดให้หมด แค่นี้ก็เสร็จละ
Dropship คืออะไร ?
Dropship คืออะไร ?
Dropship คืออะไร ? เป็นที่แน่นอนว่าคน Low tech แบบผมไม่รู้จักแน่นอน ก็ได้อากู๋ช่วยนี่แหละครับ Search มันเข้าไป ... คำตอบที่ได้ก็แตกต่างหลากหลายกันไป พอเริ่มอ่านเพลินๆ มันส์ๆ ประหนึ่งอ่านนิยายกำลังภายในติดพันก็ไม่ปาน ... มักโดนตัดจบแล้วพักโฆษณา ด้วยการ... สมัครคอร์สกับเราซิครัช คอร์สละ 5900 6900 9900 บลาๆ ๆ ๆ ๆ
... ด้วยความงก และงบน้อย ไม่ครับศึกษาเอง เท่าที่่อ่านมาหลายวันหลายคืนเรียกว่าลืมเวลาเลยเกาจากหลายๆที่ได้ข้อสรุปดังนี้
Dropship คือ สั้นๆ ง่ายๆ เลยครับ คุณเปิดร้านขายของแต่เอาของจากอีกร้านไปส่งให้ลูกค้าเมื่อมีออเดอร์ จบ ... สั้นไหม ไม่ต้องไปทำความเข้าใจมากหรอกครับ มันคือการจับเสือมือเปล่านั่นแหละ ส่วนจะทำยังไง
คุณต้องมีสิ่งเหล่านี้ก่อน
1 ต้องมีบัตรเครดิต (Credit) ถ้าไม่มีบัตรเครดิตไปข้อ 2 *สำคัญ
2 ต้องมีบัตรเดบิต (Debit) <<<< แนะนำบัตร Be1st Rabbit Visa *สำคัญ
สำคัญ
ก่อนจะไปลำดับต่อไป ต้องมีข้อ 1-2 ก่อนนะ เพราะมันต้องใช้
3 ต้องมีบัญชี eBay ( ยุ่งยากขี้เกียจพิมพ์ google เอาละกัน )
4 ต้องมีบัญชี Paypal ( คลิ๊ก )
5.1 ต้องมีบัญชี Amazon ( คลิ๊ก )
5.2 ยังไม่จำเป็นข้ามก่อนได้ สมัคร Amazon เพื่อเป็น Seller ( คลิ๊ก )
6 ต้องมีบัญชี Aliexpress (รอแก้ไขวิธีสมัคร)
7 เงินหมุนนิดๆหน่อยเริ่มต้น ( เด่วจะอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสำรองเงิน )
ส่วนจะทำยังไงต่อไปเด่วมาดูกันทีละขั้นตอนนะครับ .........
Dropship คืออะไร ? เป็นที่แน่นอนว่าคน Low tech แบบผมไม่รู้จักแน่นอน ก็ได้อากู๋ช่วยนี่แหละครับ Search มันเข้าไป ... คำตอบที่ได้ก็แตกต่างหลากหลายกันไป พอเริ่มอ่านเพลินๆ มันส์ๆ ประหนึ่งอ่านนิยายกำลังภายในติดพันก็ไม่ปาน ... มักโดนตัดจบแล้วพักโฆษณา ด้วยการ... สมัครคอร์สกับเราซิครัช คอร์สละ 5900 6900 9900 บลาๆ ๆ ๆ ๆ
... ด้วยความงก และงบน้อย ไม่ครับศึกษาเอง เท่าที่่อ่านมาหลายวันหลายคืนเรียกว่าลืมเวลาเลยเกาจากหลายๆที่ได้ข้อสรุปดังนี้
Dropship คือ สั้นๆ ง่ายๆ เลยครับ คุณเปิดร้านขายของแต่เอาของจากอีกร้านไปส่งให้ลูกค้าเมื่อมีออเดอร์ จบ ... สั้นไหม ไม่ต้องไปทำความเข้าใจมากหรอกครับ มันคือการจับเสือมือเปล่านั่นแหละ ส่วนจะทำยังไง
คุณต้องมีสิ่งเหล่านี้ก่อน
1 ต้องมีบัตรเครดิต (Credit) ถ้าไม่มีบัตรเครดิตไปข้อ 2 *สำคัญ
2 ต้องมีบัตรเดบิต (Debit) <<<< แนะนำบัตร Be1st Rabbit Visa *สำคัญ
สำคัญ
ก่อนจะไปลำดับต่อไป ต้องมีข้อ 1-2 ก่อนนะ เพราะมันต้องใช้
3 ต้องมีบัญชี eBay ( ยุ่งยากขี้เกียจพิมพ์ google เอาละกัน )
4 ต้องมีบัญชี Paypal ( คลิ๊ก )
5.1 ต้องมีบัญชี Amazon ( คลิ๊ก )
5.2 ยังไม่จำเป็นข้ามก่อนได้ สมัคร Amazon เพื่อเป็น Seller ( คลิ๊ก )
6 ต้องมีบัญชี Aliexpress (รอแก้ไขวิธีสมัคร)
7 เงินหมุนนิดๆหน่อยเริ่มต้น ( เด่วจะอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสำรองเงิน )
ส่วนจะทำยังไงต่อไปเด่วมาดูกันทีละขั้นตอนนะครับ .........
ทำไมถึงเริ่มทำ eBay ... จุดเริ่มของการเริ่มต้น
เมื่อเราคิดจะหาอะไรทำ หาอะไรที่สร้างรายได้เพิ่มเติม นั่นซิทำอะไรนะ
.... เป็นคำถามที่คิดไม่ออกเลยจริงๆ
.... จนกระทั่งคำพูดนึงของน้องคนนึง พี่มีเงิน 3000 บาท พี่ต้องไปหาของขาย พี่จะหาได้กี่ชิ้น ไหนจะทำเลอีก ไหนจะต้องสต๊อคของ ไหน ไหน มีแต่ไหนเต็มไปหมด
.... มันไม่ดีกว่าเหรอถ้าพี่จะขายออนไลน์ ตอนนี้ไม่มีทุนก็อาศัย Dropship ไปก่อน ไม่ต้องลงทุน ใช้เวลา ใช้การเฝ้าติดตาม ใช้การวิเคราะห์
คำนี้กระโจนขึ้นมาบนหัวอะไรคือ "Dropship" นี่คือจุดเริ่มต้นทั้งหมด
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)